ผ้ายันต์ ท้าวเวสสุวรรณ มี2แบบ นี้มีไว้บูชากับบ้านเรื่อน ป้องกันกันภูตผีปีศาจคุณไสยของอาถรรพ์ ร่ำรวยมั่งมีศรีสุข 19*24ซม.
ผ้ายันต์ท้าวเวสสุวรรณนี้มีไว้บูชากับบ้านเรื่อน ป้องกันกันภูตผีปีศาจคุณไสยของอาถรรพ์ ร่ำรวยมั่งมีศรีสุข
ขนาด 19*24*0.1ซม.
มี 2 แบบให้เลือก
สนใจกดซื้อเลยคะมีของพร้อมส่ง ส่งของเคอรี่ทุกวันเก้าโมงเช้า ได้ของไม่เกินห้าวันทำการ
รายได้ส่วนหนึ่งนำไปร่วมบุญกันนะคะ อนุโมทนาบุญทุกท่านด้วยคะ
เนื่องจากคติความเชื่อ ท้าวเวสสุวรรณ คือหนึ่งในท้าวจตุโลกบาล บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาชิกา ทำหน้าที่ดูแลปกครองยักษ์ และภูติผีปีศาจ ในสมัยโบราณมักจะนำยันต์ท้าวเวสสุวรรณมาไว้บนหัวนอน หรือติดไว้ตามประตูบ้านเพื่อป้องกันภูตผีปีศาจมารบกวน ซึ่งได้ผลอย่างยอดเยี่ยม
ท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวกุเวร)
ท้าวเวสสุวรรณหรือท้าวกุเวรเป็นเทพหรือยักษ์ที่ปรากฏอยู่ทั้งในศาสนาพุทธและพราหมณ์และมี
บูชาท้าวเวสสุวรรณอย่างไรให้เฮงผู้นิยมกราบไหว้กันมาก ตามคติความเชื่อทางศาสนาพุทธกล่าวไว้ในพระสูตรที่ชื่อว่า “อาฏานาฏิยะ”ว่า ท้าวกุเวรเป็นหนึ่งในท้าวจตุมหาราชผู้ครองสวรรค์ชั้น จตุมหาราชิกา (สวรรค์กามาวจร ชั้นที่ 1)
ท้าวกุเวร หรือ ท้าวเวสสุวรรณนั้นยังมีชื่ออีกหลายชื่อ เช่น ธนบดี หมายถึง “ผู้เป็นใหญ่ในทรัพย์ ธเนศวร” หมายถึง ผู้เป็นเจ้าแห่งทรัพย์ ชื่ออื่นๆคือ “อิจฉาวสุ” หมายถึง “ความมั่งมีได้ตามใจ” ชื่อ ยักษ์ราชอันหมายถึง “เจ้าแห่งยักษ์” หรือชื่อมยุราช หมายถึง “เป็นเจ้าแห่งกินนร” ชื่อรากษเสนทร์ หมายถึง “ผู้เป็นใหญ่ในพวกรากษส” ส่วนในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์เรียกท้าวเวสสุวรรณว่า “ท้าวกุเรปัน” เป็นต้น
ในทางพระพุทธศาสนา ได้กล่าวถึงอดีตชาติของท้าวกุเวร เอาไว้ใน พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม 3 ภาค 2 หน้าที่ 151 ว่า ในสมัยที่โลกยังว่างจากพระพุทธศาสนาไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลกนั้น มีพราหมณ์ผู้หนึ่งนามว่า “กุเวร” เป็นคนใจดีมีเมตตากรุณา ประกอบอาชีพสุจริต ด้วยการทำไร่อ้อยแล้วนำต้นอ้อยมาตัดใส่ลงไปในหีบยนต์เพื่อบีบน้ำอ้อยขายเลี้ยงชีวิต
ต่อมากิจการได้เจริญขึ้นจนเป็นเจ้าของหีบยนต์สำหรับบีบน้ำอ้อยถึง 7 เครื่อง จึงสร้างที่พักสำหรับ คนเดินทางและได้บริจาคน้ำอ้อยจากหีบยนต์เครื่องหนึ่งซึ่งมีปริมาณน้ำอ้อยมากกว่าหีบยนต์เครื่องอื่น ๆ ให้เป็นทานแก่คนเดินผ่านไปมาจนตลอดอายุขัย
ด้วยอำนาจแห่งบุญกุศลที่บริจาคน้ำอ้อยให้เป็นทานนั้นทำให้หนุ่มกุเวรผู้นี้ได้ไปเกิดเป็นเทพบุตร บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา มีนามว่า “กุเวรเทพบุตร” ต่อมากุเวรเทพบุตรได้รับการเทวาภิเษก (ขึ้นครองราชย์)เป็นผู้ปกครองดูแลพระนครสวรรค์ชั้นที่ 1ด้านทิศเหนือจึงได้มีพระนามว่า “ท้าวเวสสุวรรณ”
ตามหลักฐานในคัมภีร์ทางพุทธศาสนายืนยันว่า “ท้าวเวสสุวรรณ” ผู้ซึ่งเป็นเทวราชพระองค์นี้ได้สำเร็จเป็นพระอริยบุคคลชั้นโสดาบันเมื่อครั้งที่ “จุลสุภัททะปริพาชก” เกิดความสงสัยในความเป็นมาแห่ง องค์พระพุทธเจ้า ท่าน “ท้าวเวสสุวรรณ” องค์นี้เอง ที่ได้เสด็จไปร่วมต้อนรับด้วย และ ยังเป็นประจักษ์พยาน เรื่องพระมหาโมคคัลลานะ ใช้เท้าจิกพื้นไพชยนตวิมานของพระอินทร์ จนเกิดการสั่นสะเทือนไปทั้งสวรรค์ชั้นดาวดึงส์สวรรค์ชั้นที่สองอันเป็นการเตือนสติพระอินทร์อีกด้วย และก็มีความเชื่อในฤทธานุภาพอันทรงฤทธิ์ของท่านตาม ฎีกามาลัยเทวสูตร พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม 1 ภาค 2 – หน้าที่ 435 ว่า
คาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ
จุดธูป ๙ ดอก ดอกกุหลาบแดง ๙ ดอก
ตั้งนะโม ๓ จบ ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม
พระสงฆ์ บิดา มารดา ครูบาอาจารย์
ปุตตะ กาโม ละภปุตตัง ธะนะกาโมละเภธะนัง
อัตถิกาเย กายะยายะ เทวานัง ปิยะตัง สุตวา ฯ
อิติปิโส ภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ
มรณังสุขัง อะหังสุคะโต นะโมพุทธายะ ฯ
ท้าวเวสสุวรรณโณ จตุมหาราชิกา ยักขะพันตา
ภัทภูริโต เวสสะ พุสะ พุทธัง อรหัง พุทโธ
ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโม พุทธายะ ฯ
#ท้าวเวสสุวรรณ #กุเวร #เวสสุวรรณ #ร่ำรวย #บูชาข้าไม่มีจน #ยิ้มรับทรัพย์ #กุเวรน้อยร้อยล้าน #กุเวรน้อย